
น้ำยาแอร์มีหลักๆอยู่ทั้งหมด 4 ประเภท R12, R22, R410A และ R32 ในปัจจุบัน มีสารทำความเย็นเพียง 3 ชนิดที่เป็นที่นิยมกันอยู่แพร่หลาย
R12 (Chlorofluorocarbon) นั้นเป็นน้ำยาแอร์ชนิดแรกที่ได้ถูกผลิตขึ้นมาแรกเริ่ม เมื่อปี 1970 มันไม่เพียงใช้กับแอร์ แต่ยังใช้ในตู้เย็น เครื่องทำน้ำแข็ง และอุปกรณ์ทำความเย็นอีกหลายประเภท หากแต่ R12 เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ชั้นโอโซนถูกทำลายและมีผลกระทบต่อก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย ในปี 1994 น้ำยาแอร์ชนิด R12 จึงถูกสั่งเลิกผลิตไป
R22 (Hydro chlorofluorocarbon) ได้ถูกผลิตขึ้นเพื่อทดแทนน้ำยาแอร์ชนิด R12 เพราะมีการส่งผลกระทบกับภาวะโรคร้อนและทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า แต่ยังผลเสียอยู่โดยรวมจึงได้รับคำสั่งให้ชะลอและเลิกใช้น้ำยาแอร์ชนิดนี้ในสหรัฐอเมริกา ในปี 2010 และได้ถูกขยายไปในวงกว่างในประเทศต่างๆ ในประเทศไทยนั้นยังมีแอร์จำนวนมากที่ใช้น้ำยาแอร์ชนิดนี้ R410A (Hydrofluorocarbon) น้ำยาแอร์ชนิดนี้ได้ถูกคิดค้นขึ้น โดยจะไม่มีผลเสียต่อชั้นโอโซน หากแต่ยังคงส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ ในประเทศไทยเรามีแอร์ที่ใช้น้ำยาชนิดนี้อยู่ในอัตราส่วนที่ไม่มาก
R32 (Hydrofluprpcarbon) ปัจจุบันผู้ผลิตแอร์หลายค่ายเลือกใช้น้ำยาแอร์ R32 เพราะมีประสิทธิภาพสูงกว่าเมื่อเทียบกับการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังประหยัดพลังงานมากกว่า เพราะในระบบของ R32 นั้นใช้น้ำยาแอร์น้อยกว่าถึง 20% และเมื่อเทียบกันแล้ว มีการส่งผลเสียกับสิ่งแวดล้อมได้น้อยลงไปกว่า 30% ทั้งยังไม่มีผลกระทบต่อชั้นโอโซนเช่นเดียวกับ R410A อีกด้วย น้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็นได้ถูกพัฒนามาเรื่อยๆเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นพร้อมทั้งยังลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเหตุของภาวะโลกร้อนนั้นเอง
____________________________________
Air Fresh Thailand บริการล้างแอร์ด่วน โดยมืออาชีพจองล้างแอร์กับเราได้ที่ www.airfreshthailand.comหรือ https://forms.gle/qi6D5Ejb94txFobYA Line ID: https://lin.ee/4sKP6Nk